ความสำคัญของการหล่อดอกใหม่
การเลือกใช้ยางหล่อดอกเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สำคัญที่สามารถช่วยลดต้นทุนได้มาก โดยปกติแล้วต้นทุนของยางหล่อดอกจะต่ำกว่า ยางใหม่ 30% ถึง 50% โดยที่สมรรถนะในการขับขี่, ความเร็ว, ความนุ่มนวล และความปลอดภัยเทียบเท่ากับยางใหม่
อันตรายจากการใช้ยางหล่อดอก หากเป็นยางที่วิธีการหล่อดอกยางไม่ได้มาตรฐาน
- โครงสร้างยางซึ่งเป็นยางเก่าถูกใช้งานมานานและหมดสภาพก่อนที่จะถูกนำมาหลอดอกใหม่ ส่งผลให้ชั้นยางใหม่และเข็มขัดรัดหน้ายางไม่สมานกัน
- ยางหล่อดอกจะทำการถ่วงล้อ ให้สมดุลได้ยากและความไม่สมดุลของล้อ จะส่งผลให้เกิดอาการพวงมาลัยสั่นสะท้านยางสึกเร็วกว่าปกติ และระบบช่วงล่างเสียหายได้
การหล่อดอกแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
- การหล่อดอกแบบเย็น : จากมาตรฐานกระบวนการผลิตยางหล่อดอกจากโรงงานที่ได้รับการตรวจสอบและรับประกันประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยีการหล่อเย็น โดยใช้เครื่องขูดยางเพื่อเจียรผิวหน้ายางให้เรียบเสมอกัน ด้วยระบบน้ำหล่อเย็นที่ทันสมัยช่วยรักษาผิวยาง ไม่ให้ไหม้จากการขูด ทำการแต่งซ่อมแผลหน้ายางที่ชำรุดโครงยางจะได้รับการพ่น กาวยางน้ำ (Cement) เพื่อให้ลายดอกยางประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งขั้นตอนการอบยางด้วยหม้ออบขนาดใหญ่ที่อุณหภูมิ 80-100 องศาเซลเซียส ทำให้ลายดอกและเนื้อยางประสานกับโครงยางเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การหล่อดอกแบบร้อน : ด้วยเทคโนโลยีการหล่อแบบอบด้วยความร้อน จะทำให้ส่วนประกอบของยางใหม่และยางเก่าสามารถผสานเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่าง สมบูรณ์แบบหมดปัญหาการบวมหลุดล่อน โดยโรงงานยางรถยนต์จะทำการเปลี่ยนเข็มขัด รัดหน้ายาง 2 ชั้น ทุกครั้งที่ทำการหล่อดอกยางทำ ให้หน้ายางที่ได้รับความเสียหายจากการใช้งานจะได้รับการซ่อมแซม และมีสภาพดีดังเดิมจึงเสมือนได้ยางเส้นใหม่ทุกครั้งที่หล่อดอก
คุณสมบัติของยางที่จะนำมาหล่อดอกใหม่
- ควรมีความลึกของดอกยางคงเหลือประมาณ 3 มม.
- โครงยางไม่มีบาดแผลใดๆ